วังสวนบ้านแก้ว เป็นวังเก่าแก่ ที่เคยเป็นพระตำหนักสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ที่เคยประทับนานถึง 18 ปี ปัจจุบันได้จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมท้องถิ่น วังสวนบ้านแก้ว ตั้งอยู่ใกล้ตัวเมือง สามารถแวะเที่ยวชมได้สะดวก
วังสวนบ้านแก้ว ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ใกล้กับแยกเขาไร่ยา ทางเข้าจะอยู่ตรงถนนรักศักดิ์ชมูล หรือ ทางหลวงหมายเลข 316 ที่เลี้ยวมาจากถนนสุขุมวิท
วังสวนบ้านแก้ว เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี* พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ในสมัยที่พระองค์ประทับอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2493 - 2511 รวม 18 ปี โดยมีพระตำหนัก ที่ประทับ สวนส่วนพระองค์สำหรับทำการเกษตร ปลูกพืชผักสวนครัว ผลไม้ ดอกไม้ รวมถึงเลี้ยงสัตว์หลายชนิด และได้ช่วยพัฒนาหัตถกรรมพื้นบ้านให้แก่ชาวจันทบุรี ภายหลังพระองค์ได้พระราชทานที่ดินวังสวนบ้านแก้ว ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจัดตั้งวิทยาลัยครูจันทบุรี ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นสถาบันราชภัฏรำไพพรรณี และมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีตามลำดับ
หลังจากสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ได้เสด็จกลับจากประเทศอังกฤษ พร้อมด้วยพระอัฐิของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สู่ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2492 ทรงเลือกที่จะประทับที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อเป็นที่ประทับพักผ่อน โดยใช้ทรัพย์สินส่วนพระองค์ซื้อที่ดินบริเวณคลองบ้านแก้ว ในเนื้อที่ประมาณ 687 ไร่ และเรียกว่า "สวนบ้านแก้ว" ซึ่งขณะนั้นยังเป็นป่ารกร้าง ไม่มีน้ำ ไฟฟ้าพระองค์โปรดให้สร้างที่ประทับชั่วคราว ทำด้วยไม้ไผ่ หลังคามุงจาก และเสด็จประทับแรมครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2493 ต่อมาได้สร้างเรือนไม้ขึ้นอีก 2 หลัง เรือนเทา เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เรือนแดง เป็นที่พักของข้าหลวงผู้ติดตาม และเรือนเขียว เป็นที่พักของราชเลขานุการ
2 ปีหลังจากนั้น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักใหญ่ หรือตำหนักเทา เพื่อใช้เป็นที่ประทับและรับรองแขก ซึ่งปัจจุบันได้นำมาจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์
หลังจากประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลา 15 ปี ในปี พ.ศ. 2492 ทางรัฐบาลไทยได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี กลับมาเมืองไทย ขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุ 45 พรรษา ได้ประทับที่วังสระปทุม หลังจากนั้นสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ทรงกู้เงินจากธนาคาร ซื้อที่ดินในจังหวัดจันทบุรี พระราชทานนามว่า "สวนบ้านแก้ว" และประทับที่จันทบุรีนานถึง 18 ปี ต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้กราบทูลขอรับพระราชทานที่ดินสวนบ้านแก้ว เพื่อจัดตั้งวิทยาลัยครูจันทบุรี โดยทูลถวายเงิน 18 ล้านบาท หลังจากนั้นสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีทรงเสด็จกลับมาประทับที่วังศุโขทัย จวบจนสวรรคต
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระราชสมภพเมื่อ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2447 สวรรคตเมื่อ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 รวมพระชนมายุ 79 พรรษา
การเที่ยวชมวังสวนบ้านแก้ว สามารถแวะชมได้สะดวก ซึ่งส่วนที่เปิดให้เข้าชมนั้น ประกอบด้วยพระตำหนักหลายหลัง รวมถึงสวนส่วนพระองค์ ที่อยู่ในส่วนของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
เรือนเขียว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากพระตำหนักใหญ่ประมาณ 200 เมตร เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ทาสีเขียวทั้งหลัง ยกใต้ถุนสูงจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร มีระเบียงหน้าบ้าน มีบันไดทางขึ้นลง 2 ทาง ภายในเรือนเขียว แบ่งออกเป็น 3 ห้อง กับห้องน้ำ 1 ห้อง
เดิมเคยเป็นที่พักของราชเลขาก่อนพระตำหนักเทาสร้างเสร็จ ต่อมาได้ใช้เป็นเรือนรับรองพระประยูรญาติ ปัจจุบันเป็นสำนักศิลปวัฒนธรรม และพัฒนาชุมชนของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
เรือนแดง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระตำหนักเทา เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ทาสีแดงทั้งหลัง ยกใต้ถุนสูงจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร หลังคามุงด้วยกระเบื้อง มีทางขึ้นด้านหน้า และด้านหลัง
เดิมเคยเป็นที่พักของข้าหลวงที่ตามเสด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีจากกรุงเทพฯ เป็นที่พักของพระประยูรญาติ และหม่อมราชวงค์บัณฑิต จักรพันธุ์ ปัจจุบันจัดเป็นห้องให้ศึกษาค้นคว้าข้อมูล พระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
เรือนเทา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระตำหนักเทา เป็นเรือนไม้หลังเล็กชั้นเดียว ทาสีเทาทั้งหลัง ยกใต้ถุนสูงจากพื้นประมาณ 50 เซนติเมตร มีบันไดทางขึ้นลง 2 ทาง
เคยเป็นที่ประทับของพระนางเจ้ารำไพพรรณี ก่อนพระตำหนักเทาสร้างเสร็จ ปัจจุบันเป็นห้องข้อมูลพระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี
พระตำหนักนี้ในอดีต เคยเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ และรับรองพระราชอาคันตุกะ ปัจจุบันได้อนุรักษ์ให้คงสภาพเหมือนครั้งที่พระองค์ทรงเคยประทับ โดยเป็นที่รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ ซึ่งแสดงถึงการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย แบบสามัญ จัดแสดง เกี่ยวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี โดยแบ่งเป็นห้องต่างๆ เช่น
สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ทรงโปรดให้สร้างพระตำหนักดอนแค เพื่อเป็นที่ประทับสำหรับเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ และราชเลขานุการส่วนพระองค์ เดิมจึงเป็นที่พักของหม่อมราชวงค์สมัครสมาน กฤดากร ราชเลขานุการส่วนพระองค์ และเมื่อราชเลขานุการถึงแก่กรรม หม่อมเจ้าผ่องผัสมณี จักรพันธุ์ พระขนิษฐาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงดำรงตำแหน่งราชเลขานุการ ได้ประทับที่พระตำหนักดอนแค สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีจึงประทับด้วยกันที่พระตำหนักดอนแค
ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ภายในจัดแสดงแบ่งออกเป็น 5 ห้อง ได้แก่ ห้องภูมิศาสตร์จันทบุรี ห้องดนตรี นาฏศิลป์ ห้องวัฒนธรรมท้องถิ่น ห้องขุดพลอย ห้องภูมิปัญญาท้องถิ่น
- ช่วงเดือนเมษายน - มิถุนายน หรือช่วงฤดูกาลผลไม้ เหมาะกับการเข้าชมวัง ชิมผลไม้จากสวนสมเด็จ และสามารถจองที่พัก ในเขตวังได้
บ้านพัก มี 2 หลัง ได้แก่
- บ้านหลังใหญ่ ห้องพัดลม 2 ห้องนอน พักได้ไม่เกิน 15 คน ราคา 2,000 บาท
- บ้านหลังเล็ก ห้องพัดลม พักได้ไม่เกิน 10 คน ราคา 1,500 บาท
วังสวนบ้านแก้ว อยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี ใกล้กับสี่แยกเขาไร่ยา ให้เข้าทางเส้น 316
1 | ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) ตรงมาจากจังหวัดระยอง เมื่อมาถึงแยกเขาไร่ยา ให้เลี้ยวขวาเข้าเมืองจันทบุรี (ถนนรักศักดิ์ชมูล หรือ หมายเลข 316) |
2 | เมื่อเลี้ยวแล้ว ตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร ด้านซ้ายมือจะเป็นประตู 1 ทางเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี |
3 | เมื่อเข้าในมหาวิทยาลัย ให้ตรงผ่านสนามกอล์ฟไปหน่อย จะเห็นอาคารติดต่อเยี่ยมชมพระตำหนักทางขวามือ |
วังสวนบ้านแก้ว : ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
เวลาทำการ (หยุดวันจันทร์)
ทุกวัน 9.00 - 16.00 น.