น้ำตกกระทิง จันทบุรี

น้ำตกกระทิง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ เป็นน้ำตกที่มีความสูง และสวยงาม สำหรับการแวะเล่นน้ำใส เย็น ท่ามกลางธรรมชาติ ชมปลาพลวงในน้ำตก นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นเขาคิชฌกูฏ ทำให้ในช่วงเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาท มีผู้คนแวะมาเที่ยวน้ำตกกระทิงหลังจากการสักการะรอยพระพุทธบาทเป็นจำนวนมาก

น้ำตกกระทิง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ตัวน้ำตกอยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ​

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ เป็นอุทยานแห่งชาติ​ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง มีสภาพป่าที่สมบูรณ์ และมีความเป็นธรรมชาติ จึงเป็นต้นน้ำของน้ำตกที่สวยงาม เช่นน้ำตกกระทิง น้ำตกคลองไพบูลย์ และยังเป็นที่ที่เชื่อกันว่ามีรอยพระพุทธบาท ที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา

 

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ตั้งอยู่บนเทือกเขาคิชฌกูฏ ทางตอนเหนือของตัวเมืองจันทบุรี มีพื้นที่ครอบคลุมเขตอำเภอมะขาม และอำเภอคิชฌกูฏ และเป็นผืนป่าต่อเนื่องกับอุทยานแห่งชาติเขาสอยดาว

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 14 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 36,444.05 ไร่ (58.31 ตารางกิโลเมตร) แต่เดิมเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 ต่อมาได้มีการสำรวจถึงสภาพพื้นที่ความเป็นธรรมชาติของป่าไม้ และสัตว์ป่า จนกระทั่งได้กำหนดให้เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2520

ภูมิประเทศโดยทั่วไปในเขตอุทยานฯ มีลักษณะเป็นภูเขาสูงชัน แนวสันเขาวางตัวตามแนวตะวันตกเฉียงเหนือ - ตะวันออกเฉียงใต้ ในแถบนี้มียอดเขาที่สูงที่สุดคือ ยอดเขาพระบาท สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,085 เมตร บนเขาพระบาท มีหินที่มีลักษณะกลมเกลี้ยงขนาดใหญ่ กระจายอยู่ทั่วไป มีก้อนหนึ่งตั้งอยู่บริเวณรอยพระบาท ขนาดใหญ่จนสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล

สภาพป่าของอุทยานแห่งชาติ เป็นพื้นที่ที่ยังคงเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นธรรมชาติ มีต้นไม้และป่าไม้ปกคลุมเทือกเขา ทำให้กลายเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของคลองต่างๆ เช่น คลองกระทิง คลองตะเคียน คลองทุ่งเพล คลองพลวง และลงสู่แม่น้ำจันทบุรี ป่าที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่เป็น ป่าดิบชื้น มีพันธุ์ไม้ใหญ่พวก ยางแดง กระบาก หย่อง จิกดง เป็นต้น ส่วนบนยอดเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 800 เมตร จะพบว่ามีลักษณะเป็นป่าดิบเขา มีพันธุ์ไม้ประเภท มะก่อ กระบกกรัง สารภี บุนนาค ทำมัง พิมเสนป่า พลอง คอเหี้ย ชันใบใหญ่ รง พลับ อบเชย และดีหมี เป็นต้น

เนื่องจากพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ต่อเนื่องกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ทำให้เป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ของสัตว์ป่า จึงทำให้สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในผืนป่าในเขตอุทยานฯ ยังมีให้เห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งสัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก สัตว์เลื้อยคลาน นก ปลา แมลงต่างๆ เช่น ช้าง กระทิง เสือปลา หมีควาย กวางป่า เก้ง เลียงผา หมูป่า ชะนีมงกุฎ เม่นใหญ่ อีเห็นข้างลาย พังพอนเล็ก กระต่ายป่า กระแต กระรอกหลากสี ค้างคาวแม่ไก่ภาคกลาง ไก่ฟ้าหลังขาวจันทบูรณ์ ไก่ป่า งู นก กบ กิ้งก่า ไปจนถึงปลาหลากหลายชนิดตามหนองน้ำ

น้ำตกกระทิง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงมาก ช่วงบนเป็นผาน้ำตกที่เปิดโล่ง สามารถมองเห็นน้ำตกบนเขาได้จากระยะไกล ต้นน้ำมาจากแหล่งน้ำบนยอดเขาคิชฌกูฏ สายน้ำไหลพุ่งลงจากยอดเขา ผ่านหน้าผาสูงชัน แล้วแทรกตามโขดหินใหญ่บ้างเล็กบ้าง ลดหลั่นลงมา จนถึงด้านล่าง น้ำตกแบ่งออกเป็น 13 ชั้น ในแต่ละชั้นถูกโอบล้อมด้วยป่าที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ เป็นป่าดิบชื้น ที่มีต้นไม้ พรรณไม้หลายชนิดขึ้นเกาะเกี่ยวกัน ส่วนในแอ่งน้ำตก เป็นหินและทราย น้ำจึงใส มองเห็นปลาพลวง* ที่มีอยู่มากมายในน้ำตก

น้ำตกกระทิงในแต่ละชั้น มีความงามแตกต่างกันออกไปตามแต่ธรรมชาติจะสร้างสรรค์ ชั้นที่ 1 ห่างจากบริเวณที่ทำการเพียง 100 เมตร อยู่ใกล้กับบริเวณที่เป็นบ้านพักอุทยานฯ จุดที่คนนิยมแวะเล่นน้ำมากที่สุดคือชั้นที่ 3 เพราะอยู่ไม่ไกล ไม่กี่ร้อยเมตรจากที่ทำการ ไม่ต้องปีนป่าย ไม่เหนื่อยมาก สายน้ำไม่แรงมาก ตกจากโขดหินที่ไม่สูงมาก มีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำได้ ปลอดภัย เหมาะกับการพักผ่อน จากบริเวณชั้น 3 เมื่อข้ามสะพานไม้ แล้วเดินต่อขึ้นไปยังน้ำตกชั้นอื่นๆ ต้องเดินเลาะริมลำธารขึ้นเขาต่อไปอีก ตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไป ทางเดินค่อนข้างยากลำบากบ้าง เส้นทางค่อนข้างชัน ปีนป่ายขึ้นเขา ทางเดินมีหินที่บางครั้งอาจจะลื่น ควรใช้ความระมัดระวัง และต้องใช้กำลังขากันสักหน่อย

น้ำตกชั้นที่สวย ยิ่งใหญ่ และถือเป็นไฮไลท์ของน้ำตกกระทิงนั้น อยู่ที่ชั้น 8 และชั้น 9 ใช้เวลาเดินราว 1 ชั่วโมง เป็นช่วงที่สายน้ำ ตกลงมาจากผาสูงตระหง่าน หากมองจากหน้าน้ำตกขึ้นไป จะเห็นชั้น 8 และชั้น 9 เหมือนกับเป็นหน้าผาสูงต่อเนื่องกันมา แต่แท้จริงแล้ว เมื่อน้ำตกพวยพุ่งผ่านผาหินชั้น 9 จะลงมายังแอ่งน้ำพักตัวก่อนที่จะตกผ่านหน้าผาลงมายังชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นที่หน้าน้ำตกเปิดโล่ง ในชั้น 8-9 เป็นจุดชมวิวที่เห็นวิวทิวทัศน์ในระยะไกลไปถึงอ่างเก็บน้ำทุ่งเพล และป่าไม้ที่รายล้อมอยู่โดยรอบ หากใครมาถึงจุดนี้ ก็ถือว่ามาถึงจุดที่สวยที่สุดของน้ำตกแล้ว ส่วนในชั้นอื่นๆ ตั้งแต่ชั้นที่ 10-13 ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาติให้ขึ้นไปชม เพราะเป็นจุดที่เคยมีดินถล่ม เจ้าหน้าที่จะติดเป็นป้ายประกาศเตือนไว้

ช่วงที่เหมาะกับการมาเที่ยวชมน้ำตกกระทิงให้ได้สวยที่สุด ควรมาในช่วงหลังฝน ประมาณกลางเดือนตุลาคม - กลางเดือนกุมภาพันธ์ ได้เห็นต้นไม้โดยรอบเขียวชอุ่ม มีมอส เฟิร์น และดอกไม้สวยๆ บริเวณลานกางเต็นท์จะอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำ วิวสวยงาม ช่วงอากาศหนาวเย็น บางครั้งจะเห็นไอหมอกยามเช้า ถ่ายรูปได้สวย

การเดินทาง
ห่างจากเขื่อนพลวง 1 กิโลเมตร
ห่างจากน้ำตกคลองไพบูลย์ 8 กิโลเมตร
ห่างจากวัดพลวง (ทางขึ้นเขารอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฏ) 9 กิโลเมตร
ห่างจากวัดเขาสุกิม 21 กิโลเมตร
ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 25 กิโลเมตร

 

ใช้เส้นทางไปอำเภอเขาคิชฌกูฏ ทางเดียวกันเส้นทางไปสักการะรอยพระพุทธบาท แต่อุทยานฯ​ อยู่เลยทางเข้าวัดพลวงไปอีกหน่อย

1	ใช้เส้นทางถนนสายสุขุมวิท (หมายเลข 3) จากอำเภอแกลงจังหวัดระยอง ไปทางจันทบุรี

2	เมื่อมาถึงแยกที่จะเข้าตัวเมืองจันทบุรี (แยกเขาไร่ยา) จึงเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอเขาคิชฌกูฏ (ทางหลวงหมายเลข 3249) ตำแหน่ง แยกเขาไร่ยา   รูปภาพ แยกเขาไร่ยา

3	จากนั้น ขับตรงไปอีกประมาณ 22 กิโลเมตร จะเห็นป้ายบอกทางเลี้ยวขวาไปอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ (น้ำตกกระทิง) ตำแหน่ง แยกไปน้ำตกกระทิง   รูปภาพ แยกไปน้ำตกกระทิง

4	พอเลี้ยวขวาไปประมาณ 1 กิโลเมตร จึงจะถึงลานจอดรถ และจุดตรวจก่อนเข้าอุทยานฯ ตัวน้ำตกกระทิงชั้นแรก เดินจากที่ทำการไปเพียง 100 เมตร

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
เวลาทำการ
8.00-16.30 น.
ที่อยู่ ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี 22210
ติดต่อ 039-452-074

หรือ
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ
เวลาทำการ
วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-18.00 น.
วันเสาร์ เวลา 9.00-15.30 น.
ติดต่อ 02-562-0760
เว็บไซต์ http://www.dnp.go.th

ค่าธรรมเนียมการเข้าอุทยานฯ
คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

ค่าธรรมเนียมนำพาหนะเข้าอุทยานฯ
รถจักรยาน คันละ 10 บาท
รถมอเตอร์ไซค์ คันละ 20 บาท
รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 30 บาท
รถยนต์ 6 ล้อ คันละ 100 บาท
รถยนต์ไม่เกิน 10 ล้อ คันละ 200 บาท