อ่างศิลา คือสถานที่ที่ตั้งอยู่ระหว่างหาดบางแสนและตัวเมืองชลบุรี เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาแห่งหนึ่งของจังหวัด เพราะว่าขึ้นชื่อในเรื่อง ครกหินที่ทนทานสวยงาม เนื้อหินมีความวาวเป็นประกาย นอกจากครกหินแล้วบริเวณนี้ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหินให้เป็นเครื่องมือเครื่องใช้อีกด้วย ในเรื่องคุณภาพนั้นแทบไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะการผลิตสินค้าที่ทำจากหิน ที่อ่างศิลานี้ได้รับการสืบทอดต่อกันมานาน สมกับที่มีชื่อว่า "อ่างศิลา" จริง ๆ
นอกจากผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยหินแล้ว อ่างศิลายังถือเป็นที่รับลมชมทะเลได้เช่นกัน เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างเงียบสงบหน่อย เมื่อเทียบกับตัวหาดบางแสน เพราะเส้นทางระหว่างอ่างศิลา-บางแสนนั้น อยู่ติดริมทะเล จะมีช่วงที่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ มีทำเลที่ตั้งที่ดีลมพัดเย็นสบายแทบจะตลอดเลย อีกทั้งยังมีร้านอาหารทะเลเรียงรายกันอยู่บนเส้นทางนี้หลายเลย ซึ่งแน่นอนว่า อยู่ติดทะเลแบบนี้ มีชื่อในเรื่องความสด รสชาติดี ของอาหารทะเลอยู่แล้ว (โดยเฉพาะหอยนางรมนั้นมีชื่อมาก เพราะว่าอ่างศิลามีแหล่งเพาะหอยนางรมขนาดใหญ่อยู่ด้วย) เพราะมีสะพานปลาที่เรือประมงจะนำอาหารทะเลมาเทียบท่าทุกเช้ามืด ซึ่งการันตีถึงความสดได้จริงแท้แน่นอน นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาผ่านไปก็มักจะแวะจุดนี้เสมอ เพราะสามารถนำไปปิ้งย่างเองริมชายหาดหรือนำกับไปปรุงแต่งที่บ้านได้
ที่จริงบรเวณใกล้ ๆ กับสะพานปลาอ่างศิลานั้น ยังมีตลาดเก่า 133 ปีอยู่ด้วย ซึ่งช่วงที่มีการปรับปรุงตลาดนั้น มีความคึกคักไม่น้อยเลย แต่ว่าในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะไม่คึกคักอย่างแต่ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามได้ยินมาว่าตลาดแห่งนี้กำลังจะมีการปรับปรุง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ซึ่งก็คงต้อวดูกันต่อไปว่าจะมีอะไรดี ๆ ให้เราได้ชมหรือเปล่า
ความเป็นมา
ในอดีตนั้นชาวบ้านเรียกพื้นที่อ่างศิลาในปัจจุบันว่า "อ่างหิน" เพราะมีหินก้อนใหญ่อยู่มาก แต่พอมาถึงในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการเปลี่ยนชื่อให้กลายมาเป็นอ่างศิลา ด้วยเหตุผลที่ลงไว้ ณ วันที่ 9 มกราคม 2491 เป็นลายลักษณ์อักษรว่า "เรียกชื่อว่าอ่างศิลานั้น เพราะมีแผ่นดินสูงเป็นลูกเนิน มีศิลาก้อนใหญ่ๆ เป็นศิลาดาด และเป็นสระยาวรี อยู่ 2 แห่งๆหนึ่งลึก 7 ศอก กว้าง 7 ศอก ยาว 10 วา แห่งหนึ่งลึก 6 ศอก กว้าง 1 วา 2 ศอก ยาว 7 วา เป็นที่ขังน้ำฝน น้ำฝนไม่รั่วซึมไปได้" พื้นที่บริเวณนี้จึงถูกเรียกว่าอ่างศิลามาจนถึงปัจจุบัน